หวัดดีฮ้าบบบ เป็นครั้งแรกเลยสำหรับการเดินทาง แล้วได้นำข้อมูลมารีวิว บอกต่อ ซึ่งจริงๆแล้ว การเดินทางของเราในทริปนี้(และทริปก่อนๆ)ก็ได้ข้อมูลรีวิวในพันทิบของท่านสมาชิกอื่นๆนี่ล่ะ เป็นตัวช่วยในการเดินทางของเราค่ะ ดังนั้นเราเลยนำข้อมูลของเรามาบอกต่อบ้าง เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับสมาชิกท่านอื่นต่อไป
ออกตัวก่อนว่า เราไม่ใช่สายถ่ายรูป รูปไม่สวยงามฟรุ้งฟริ้งนะคะ แถมบางจังหวะด้วยความที่ไปคนเดียวเลยไม่สะดวกถ่าย เพราะโรคกำเริบค่ะ....อย่าได้ งง กันไป โรคที่ว่าคือโรคหอบนั่นเอง หอบมันทุกอย่าง ทั้งแบคแพค ทั้งเป้ฟรุ้งฟริ้ง กะว่ากลับมาคราวนี้ สมาคมยกน้ำหนักอาจจะเรียกตัวไปรับใช้ชาติ เพราะแววดีมากๆ
ทริปของเรา คือวันที่ 6-12 กันยายน 2559 ที่ผ่านมาค่ะ นี่เป็นครั้งแรกของเราสำหรับ ฮ่องกง,เซินเจิ้น,กวางโจว และเป็นครั้งแรกที่เดินทางคนเดียวด้วยค่ะ แอบตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะได้ยินเสียงร่ำลือของพี่จีนมาไม่น้อย แอบกลัวเบาๆ แต่ในเมื่อมีหน้าตาเป็นอาวุธ(ชีวภาพ อานุภาพทำลายล้างสูง)เลยทำให้ความกลัวลดลงค่ะ
เราเริ่มจากการขอวีซ่าจีนค่ะ ตอนนี้เราไม่สามารถขอวีซ่าหน้าด่านได้ ต้องขอจากประเทศไทยไปเลยเท่านั้นนะคะ ของเราเนื่องจากไม่มีเวลาจะไปยื่นด้วยตนเอง เลยโหลดแบบฟอร์ม กรอกเองและเตรียมเอกสารเอง แต่ให้เอเจนซี่ยื่นให้ค่ะ เสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่าธรรมเนียมของเอเจนซี่ ค่าส่งวีซ่าทางไปรษณีย์มาให้เรา ทั้งหมด 1300 บาทค่ะ
เราเดินทางด้วยสายการบิน แอร์เอเชีย โดยขาไปลงที่ฮ่องกง ขากลับกลับทางกวางโจวค่ะ เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเดินทางได้ ไฟล์ทของเราออกเดินทาง 6.30 น. ไปถึงสนามบินฮ่องกง ราว 10.15 น.(เวลาฮ่องกงซึ่งเร็วกว่าเราไปหนึ่งชั่วโมงค่ะ) พอถึงสนามบินฮ่องกงแล้ว ก่อนออกมาด้านนอกอย่าลืมแวะเอาแผนที่ฟรีที่บูทนี้นะคะ

จะอยู่ตรงแถวๆที่เรารับกระเป๋าแล้วจะเดินออกมาด้านนอกค่ะ
หลังจากเดินออกมาแล้วจะเห็นบูทแบบนี้ตั้งตระหง่านเห็นได้ชัดเลย ก็ตรงไปซื้อบัตร octopus ได้เลยค่ะ ราคา 150ดอลล่าฮ่องกง แต่สามารถใช้ได้ 100เหรียญ ส่วน50เป็นค่ามัดจำที่ได้คืนตอนคืนบัตรค่ะ
พอซื้อบัตรเสร็จ ก็แหงนมองแล้วเดินตามป้ายที่เขียนว่า to city ไปเรื่อยๆค่ะ จนถึงด้านนอก จะมีป้าย bus บอกอยู่ให้เดินไปทางนั้น(สำหรับคนที่จะขึ้นรถบัสค่ะ) หรือใครไปช่วงนี้ให้สังเกต นิทรรศการณ์นี้เลยค่ะ เดินชมเพลินๆก็ได้ สวยดี
จนเดินมาเจอคนต่อแถวรอรถบัสเลยค่ะ แยกเป็นสายต่างๆ สำหรับเราพักย่านเหยา หม่า ไต๋ ต้องขึ้น สายA21ค่ะ ซึ่งสายนี้จะผ่านย่านใจกลางเมืองแถบนั้น ทั้งมงก๊ก เหยา หม่าไต๋
[CR] สาว(เหลือ)น้อยใจเปลี่ยว เที่ยวคนเดียว ฮ่องกง,เซินเจิ้น,กวางโจว (ฉบับวนิพก)
ออกตัวก่อนว่า เราไม่ใช่สายถ่ายรูป รูปไม่สวยงามฟรุ้งฟริ้งนะคะ แถมบางจังหวะด้วยความที่ไปคนเดียวเลยไม่สะดวกถ่าย เพราะโรคกำเริบค่ะ....อย่าได้ งง กันไป โรคที่ว่าคือโรคหอบนั่นเอง หอบมันทุกอย่าง ทั้งแบคแพค ทั้งเป้ฟรุ้งฟริ้ง กะว่ากลับมาคราวนี้ สมาคมยกน้ำหนักอาจจะเรียกตัวไปรับใช้ชาติ เพราะแววดีมากๆ
ทริปของเรา คือวันที่ 6-12 กันยายน 2559 ที่ผ่านมาค่ะ นี่เป็นครั้งแรกของเราสำหรับ ฮ่องกง,เซินเจิ้น,กวางโจว และเป็นครั้งแรกที่เดินทางคนเดียวด้วยค่ะ แอบตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะได้ยินเสียงร่ำลือของพี่จีนมาไม่น้อย แอบกลัวเบาๆ แต่ในเมื่อมีหน้าตาเป็นอาวุธ(ชีวภาพ อานุภาพทำลายล้างสูง)เลยทำให้ความกลัวลดลงค่ะ
เราเริ่มจากการขอวีซ่าจีนค่ะ ตอนนี้เราไม่สามารถขอวีซ่าหน้าด่านได้ ต้องขอจากประเทศไทยไปเลยเท่านั้นนะคะ ของเราเนื่องจากไม่มีเวลาจะไปยื่นด้วยตนเอง เลยโหลดแบบฟอร์ม กรอกเองและเตรียมเอกสารเอง แต่ให้เอเจนซี่ยื่นให้ค่ะ เสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่าธรรมเนียมของเอเจนซี่ ค่าส่งวีซ่าทางไปรษณีย์มาให้เรา ทั้งหมด 1300 บาทค่ะ
เราเดินทางด้วยสายการบิน แอร์เอเชีย โดยขาไปลงที่ฮ่องกง ขากลับกลับทางกวางโจวค่ะ เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเดินทางได้ ไฟล์ทของเราออกเดินทาง 6.30 น. ไปถึงสนามบินฮ่องกง ราว 10.15 น.(เวลาฮ่องกงซึ่งเร็วกว่าเราไปหนึ่งชั่วโมงค่ะ) พอถึงสนามบินฮ่องกงแล้ว ก่อนออกมาด้านนอกอย่าลืมแวะเอาแผนที่ฟรีที่บูทนี้นะคะ
จะอยู่ตรงแถวๆที่เรารับกระเป๋าแล้วจะเดินออกมาด้านนอกค่ะ
หลังจากเดินออกมาแล้วจะเห็นบูทแบบนี้ตั้งตระหง่านเห็นได้ชัดเลย ก็ตรงไปซื้อบัตร octopus ได้เลยค่ะ ราคา 150ดอลล่าฮ่องกง แต่สามารถใช้ได้ 100เหรียญ ส่วน50เป็นค่ามัดจำที่ได้คืนตอนคืนบัตรค่ะ
พอซื้อบัตรเสร็จ ก็แหงนมองแล้วเดินตามป้ายที่เขียนว่า to city ไปเรื่อยๆค่ะ จนถึงด้านนอก จะมีป้าย bus บอกอยู่ให้เดินไปทางนั้น(สำหรับคนที่จะขึ้นรถบัสค่ะ) หรือใครไปช่วงนี้ให้สังเกต นิทรรศการณ์นี้เลยค่ะ เดินชมเพลินๆก็ได้ สวยดี
จนเดินมาเจอคนต่อแถวรอรถบัสเลยค่ะ แยกเป็นสายต่างๆ สำหรับเราพักย่านเหยา หม่า ไต๋ ต้องขึ้น สายA21ค่ะ ซึ่งสายนี้จะผ่านย่านใจกลางเมืองแถบนั้น ทั้งมงก๊ก เหยา หม่าไต๋